ได้อย่างอิสระ ความหลากหลายทั้งหมดที่กล่าวไปก็ช่วยเลื่อนเวลา

ได้อย่างอิสระ เมื่อเอ๋ยถึงกลุ่มคำภาษาอังกฤษที่ว่า ถ้ามันไม่พังทลายก็ไม่ต้องพยายามปรับปรุงแก้ไขซ่อนแซมมัน

ได้อย่างอิสระ ผ่านหูมาบ้าง น่าจะไม่มีเกมไหน ที่จะเป็นตัวแทนของกลุ่มคำนี้ ก้าวหน้าไปกว่าเกมลอบเร้น ซีรี่ส์ดังฮิตแมน3 ของผู้พัฒนา ไอโอ อินเทอแรคคราวฟ ด้วยเกมเพลย์ กราฟฟิค และองค์ประกอบการนำเสนอ ที่บางทีอาจจะต้นแบบเดิม เกือบเป๊ะๆมาตั้งแต่ที่ภาคแรกวางจำหน่ายไปในปี 2016

แต่ถึงอย่างนั้นเกมฮิต3 ก็ยังถือได้ว่าเป็น เกมลอบเร้นที่เบิกบาน ท้า และน่าสนใจ ในแบบที่ผิดแผก กับเกมลอบเร้นในตลาดโดยมาก ด้วยเกมเพลย์ที่ย้ำ การแก้ปัญหาอย่างประดิษฐ์ รวมทั้งใจเย็นมากกว่า การต่อสู้แบบแอคชั่น อย่างที่แลเห็นในหลายๆเกมในช่วงเวลานี้ แน่นอนว่าในความจำเจ ของระบบต่าง ๆ อาจก่อให้เกมรู้สึกเปรียบเสมือน เป็นส่วนเสริมของเกมภาคที่ผ่าน ๆ มามากกว่าจะเป็นภาคต่อ เต็มที่ซะทีเดียว

แม้กระนั้นสำหรับแฟนเกม ที่อยากได้ประสบการณ์ เกมลอบเร้นแบบเริ่มต้น ที่หาได้ยากเดี๋ยวนี้ (หรือแค่เพียงอยากหาเกมดีๆเล่นในช่วงต้นปี ที่ยังมีเกมออกน้อย) แน่ใจว่าเกมฮิตแมน3 จะไม่ทำให้คุณผิดหวัง อย่างแน่แท้ กราฟฟิก/การนำเสนอ เช่นเดียวกับองค์ประกอบอื่นๆในเกม กราฟฟิกรวมทั้งการนำเสนอของฮิตแมน3 ไม่มีความแตกต่างไปจาก ที่แลเห็นในฮิต2 อย่างใหญ่โตนัก ข่าวเกมใหม่

โดยเฉพาะ ในส่วนของโมเดล ดาราหนังรวมถึงอนิเมชั่น ท่าทางการขยับตัว ที่ยังคงเหมือนกันเป๊ะ บางทีอาจจะเป็นได้ว่า จะมีการปรับปรุงขึ้นบ้าง ในทางของแสงไฟเงา โดยเฉพาะ ในบางด่านของเกมอาทิเช่น ว่าด่านเบอร์ลิน ที่มีลักษณะเป็นไนท์คลับ ที่เปิดไฟสปอตไลท์สีสันต่างๆตามจังหวะเพลง หรือด่าน ฉงชิ่ง ที่ทาไปด้วยแสงสว่างนีออน ท่ามกลางฝน

รวมทั้งหน้าตาท่าทาง ของดาราหนังในฉาก คัตซีนก่อน/ข้างหลังภารกิจ ที่มองมีความลึกล้ำ กว่าก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาอย่างที่กล่าวไปแล้ว ตามข้างต้น แต่ยิ่งไปกว่านั้นแล้ว ต่อจากนั้นก็แทบจะ จะไม่มีอะไรผิดแผกแตกต่าง ในภาพรวม เกมยังคงมีปัญหาเรื่อง นักแสดงที่ผู้เล่นมิได้ควบคุม หน้าซ้ำที่โผล่มา ให้แลเห็นจนกระทั่งรำคาญตา รวมทั้งเรื่องของ การออกแบบยูสเซอร์ อินเตอร์เฟซ / อินเตอร์เฟซหน้า เมนูต่างๆที่ยังมีลักษณะเป็นช่องๆกล่องๆแบบ มินิมอล ที่แม้ว่าจะสะอาดตา แม้กระนั้นก็ซึมเศร้า ไม่ได้มีความแตกต่างจากภาค2เลย

ได้อย่างอิสระ เรื่องราวของเกมฮิตแมน3 จะดำเนินต่อจากเรื่องราว ของภาคก่อนหน้าโดยตรง และจะติดตาม

ผู้แสดงนำชายเอเจ้นท์47 แล้วก็เพื่อนเก่าของเขา ลูคัส เกรย์ สำหรับเพื่อการตามล่า ‘เดอะคอนสแทนท์’ ผู้ซึ่งเป็นตัวออกคำสั่งหลัก ของหน่วยงานพรอวิเดนซ์ ที่เป็นศัตรูศัตรู ของนักแสดงนำมานาน และเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง สมัยโบราณอันน่าเศร้าของเขาอีกด้วย

โดยดังเกมภาคก่อนหน้า เรื่องราวของเกมฮิตแมน3 จะติดตามตัวนำ แล้วก็ผองเพื่อนพ้อง ในการตามล่า สมาชิกที่เหลืออยู่ ของหน่วยงานพรอวิเดนซ์ ไปทั่วทุกมุมโลก และตั้งข้อซักถามถึง “ตัวตน” ของเอเจ้นท์47 ในวันที่เขาไร้จุดหมาย หรือภารกิจให้ตามหลังอีกต่อไป ตามเคยกล่าวไป ในรีวิวเกมฮิตแมน2 เมื่อปี 2018

เรื่องราวของเกมซีรี่ส์ฮิตแมน น่าจะเป็นองค์ประกอบ ที่สำคัญต่อเกมน้อยที่สุดแล้ว ซึ่งในเกมภาค3 นี้ก็ไม่ได้ทำให้ความคิดเห็นนั้น เปลี่ยนไปอะไร โดยเกมยังคงเลือก ที่จะเล่าราว ผ่านฉากคัตซีนสั้นๆก่อนแล้วหลังจากนั้นก็ข้างหลังภารกิจเป็นหลัก รวมทั้งแทรกสอดบท สำหรับกล่าวหรือเรื่องเล็กๆน้อยๆเข้ามาระหว่างพฤติกรรมภารกิจ ในแต่ละด่าน ศัตรูพวกซอมบี้

ซึ่งมีความปรับปรุงแก้ไขขึ้นจากภาค 2 หน่อยเดียวในทางของการเล่าเรื่องที่ย้ำให้เห็นตัวละครรวมทั้งเหตุเยอะขึ้นช่วยปรับมีความเชื่อมโยงกันของฉากคัตซีนและก็เรื่องราวในภารกิจ ที่ให้ความรู้ความเข้าใจสึก “บ่อย” กว่าในเกมภาค 2 แม้กระนั้นโดยรวม ๆ แล้วก็ไม่ได้ทำให้เรื่องราวชวนติดตามขึ้นเท่าไร

และเพราะว่าการเล่าเรื่องที่ทิ้งช่วงของภาคผ่านๆมา ทำให้การปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งผองยังคงเป็นปัญหาสำหรับคนเขียนในภาคนี้ แต่เหมือนกันกับในเกมฮิตแมน2 การที่เรื่องราวของเกมในภาพกว้างจะยังคงติดตามได้ยาก แต่ว่าเรื่องราวเล็กๆที่มีอยู่ในแต่ละด่านก็ยังคงมีความน่าดึงดูดใจอยู่บ้าง

อย่างเช่นเรื่องราวของด่านทอร์นบริดจ์เมนอร์ ที่มีลักษณะคือปัญหาการฆ่าห้องปิดตายอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งก็ทำให้เกมยังคงมีเส้นเรื่องให้ติดตามอยู่ แล้วก็ทำให้การทำภารกิจรู้สึกมี “มิติ” ในด้านของเรื่องราวรวมถึงบอกเหตุผล สำหรับในการทำของผู้เล่นในระดับที่นา ๆ ประการในแต่ละด่าน ทำให้ไม่มีความเอาใจใส่เรื่องราวในภาพใหญ่ที่ไม่ค่อยน่าสนใจไปได้ไม่มากก็น้อย

อย่างที่กล่าวไปแล้วตามข้างต้น เกมฮิตแมน3มีพัฒนาการในด้านเกมเพลย์อยู่ค่อนข้างจะน้อยมากๆจากเกมภาคก่อนหน้า

กล่าวได้ว่าเว้นเสียแต่เครื่องใช้ไม้สอยกล้องถ่ายสำหรับภาพนำพาที่เอาไว้ใช้แฮ๊คอุปกรณ์ไฟฟ้าชนิดต่างๆในด่านแล้ว ทุกองค์ประกอบของเกมเพลย์แทบจะยกมาจากเกมภาค 2 (รวมทั้งภาคแรก) โดยตรงอย่างยิ่งจริง ๆ บางครั้งอาจจะฟังมองดูน่าเบื่อหน่ายสำหรับบางคน แต่ว่าในความเห็นของคนเขียน ลักษณะเด่นของซีรี่ส์ฮิตแมน ไม่ใช่ระบบเกมเพลย์ที่ล้ำลึกอะไรนัก

แม้กระนั้นเป็นการดีไซน์ด่านแต่ละด่านในเกม ที่บังคับให้ผู้เล่นควรต้องใช้ ความคิดประดิษฐ์ของตนเอง ในการฆ่าจุดมุ่งหมาย หรือทำภารกิจ ที่เกมกำหนดให้เสร็จได้อย่างอิสระ ตัวอย่างเช่นการเลือกปลอมตัว เป็นตัวละครชนิดต่าง ๆ เพื่อเข้าถึงพื้นที่ต้องห้ามโดยไม่มีผู้ใดสังเกต หรือการหาข้าวของเครื่องใช้ในฉากมาใช้ประโยชน์

โดยเกมยังมีความ “ขบขันร้าย” อันเป็นเสน่ห์ของซีรี่ส์ ที่ทำให้ผู้เล่นสามารถฆ่าศัตรูในหนทางพิศดารต่างๆได้มากมาย อย่างเช่นในด่านดูไบ คนเขียนสังเกตว่า เป้าหมายถูกใจถูกอกถูกใจ เดินไปยืนมองทัศนียภาพ ตรงขอบตึกในจุดเดิมเสมอ จังทดสอบเอาเปลือกกล้วย ไปวางเอาไว้ภายในจุด ที่เป้าหมายจะเดินมา ผลเป็นจุดหมายลื่นเปลือกกล้วย จนกระทั่งตกตึกตายไปเอง อย่างน่าสงสาร

ซึ่งอิสรภาพนี้ ทำให้การเล่นเกมฮิตแมน ทุกภาคมีความลึกกว่า ที่ตามองมองเห็น และก็สามารถเล่นเสมอๆเพื่อหาวิธีกำจัดเป้าหมายที่แปลกใหม่หรือเร็วขึ้นได้ แต่สำหรับคนที่คร่ำครวญหาการเล่นแบบตามภารกิจเปรียบเสมือนในเกมลอบเร้นอื่น ๆ ก็ยังมีระบบระเบียบ มิชชั่น สตอรี่ จากภาคก่อน ๆ ให้คุณทำภารกิจที่เกมมอบให้ไปบ่อยได้เช่นกัน

ยกตัวอย่างในด่านทอร์นบริดจ์เมนอร์ ที่เอ่ยถึงไปก่อนหน้านี้ ข้างในภารกิจจะมอบหมายให้เราจะต้องกำจัดเป้าหมายที่เป็นคุณนายหัวหน้าญาติผู้ดีอันโบราณ แต่เมื่อเดินทางไปถึงเรากลับได้มาพบว่าได้มีการการฆ่าขึ้นในบ้านด้านหลังนี้ รวมทั้งมีนักสืบคนหนึ่งถูกจ้างมาเพื่อสิบหาตัวคนร้าย

โดยสำหรับในการเล่นครั้งแรก ผู้เขียนเลือกที่จะปลอมตัวเป็นสายคนที่ใครๆก็รู้จักกล่าวรวมทั้งแกล้งทำเป็นเสาะหาเพศผู้ร้ายจนกระทั่งทำให้พบกับขวดยาพิษที่ใช้เป็นอาวุธฆ่าในคดีการฆ่านั้น ซึ่งนักเขียนก็ใช้เพื่อฆ่าจุดมุ่งหมายของเราอีกรอบ

ในตอนที่การเล่นรอบสอง คนเขียนเลือกปลอมตัวเป็นช่างถ่ายรูปที่ถูกจ้างมา ถ่ายภาพรวมญาติ ของจุดหมายปลายทาง แล้วก็แอบวางกับดักกระแสไฟ เอาไว้ในจุดถ่ายภาพ ก่อนที่จะเรียกรวมจุดมุ่งหมายและครอบครัวมาถ่ายภาพ (รวมทั้งโดนไฟช๊อตตาย) อื่นๆอีกมากมาย

แน่นอนว่ายังมีวิถีทางฆ่าเป้าหมายอีกเยอะแยะที่ผู้แต่งยังไม่ได้ทดสอบ ในตอนที่เกมเจาะจงมาและที่สามารถพลิกแพลงเอาเอง แถมเมื่อเล่นจบด่านครั้งหนึ่งแล้ว เราจะสามารถเริ่มเล่นใหม่โดยพกเครื่องไม้เครื่องมือพิเศษหลายชนิดเข้าไปใช้ได้เพิ่ม เพื่อเปิดช่องทางในการสำเร็จภารกิจได้นานัปการมากขึ้นด้วย หากว่าไม่มีตัวเลือกเหล่านี้ ผู้เล่นบางครั้งอาจจะสามารถเล่นฮิตแมน3 ได้จบข้างใน 6-8 ชั่วโมง